ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี เนื่องจากตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันสหรัฐฯ ลดลง ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากรัสเซีย และความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยทั่วโลกที่อาจเกิดขึ้น ข้อมูล จาก EIA แสดงให้เห็นถึงสินค้าคงคลังน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลง 7.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 12 ส.ค. เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 275,000 บาร์เรล เนื่องจากการส่งออกพุ่งแตะ 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ การส่งออกน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน ขณะที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ข้อมูลจาก Joint Organizations Data Initiative (JODI) ที่เปิดเผยเมื่อวันพุธ ในขณะเดียวกัน ตลาดกำลังรอการเคลื่อนไหวจากการเจรจาเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ของอิหร่านกับสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มการส่งออกน้ำมันของอิหร่านในท้ายที่สุด การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอาจเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนสิงหาคม โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากจีน เนื่องจากน้ำมันของรัสเซียมีราคาแพงขึ้น
ในเวลา 00.30 น. ET (04.30 GMT) ค่าเงิน หยวน ลดลง 0.1% เป็น 6.7567 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยดัชนี ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) และ ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีนขยายตัวในอัตราที่ช้ากว่าที่คาดในเดือนก.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศยังคงเผชิญกับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ที่เกี่ยวเนื่องกับการแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ได้สร้างความเสียหาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราเงินเฟ้อราคาผู้ผลิตที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมโรงงานยังคงถูกจำกัดอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นลางไม่ดีสำหรับประเทศในเอเชียอื่น ๆ ที่พึ่งพาจีนเป็นปลายทางสำหรับการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญ
ค่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงเล็กน้อยในวันพุธ หลังจากค่าเงินเฟ้อในเดือนก.ค.ที่อ่อนตัวเกินคาด ขณะที่สกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ส่วนใหญ่ทรงตัวรอรายงานข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐฯ